ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดสุโขทัย
ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดสุโขทัย

ข้อมูลจังหวัดสุโขทัย

 

ข้อมูลทั่วไป


                                                                                ตราประจำจังหวัดสุโขทัย
                ภาพพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง ประทับบน     พระแท่นมนังคศิลา ปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข   และทรงบริหารราชอาณาจักรแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรืองที่สุดในช่วงปี  พ.ศ.  1822  ถึง พ.ศ. 1842

 

จังหวัดสุโขทัย ใช้อักษรย่อว่า "สท"

 

คำขวัญของจังหวัดสุโขทัย

                                             "มรดกโลกล้ำเลิศ                              กำเนิดลายสือไทย 
                                             เล่นไฟลอยกระทง                             ดำรงพุทธศาสนา
                                             งามตาผ้าตีนจก                                 สังคโลก ทองโบราณ 
                                             สักการแม่ย่า พ่อขุน                           รุ่งอรุณแห่งความสุข"

 

 

ธงประจำจังหวัดสุโขทัย
 

                  เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพื้นสี ๓ สี แถบแดงอยู่เบื้องบน แถบสีเหลืองอยู่ตรงกลาง และแถบเขียวอยู่เบื้องล่าง พื้นธงมุมบนด้านใกล้คันธง มีภาพพ่อขุนรามคำแหงมหาราช  พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงประทับบนพระแท่นมนังคศิลาและมีคำว่าจังหวัดสุโขทัยอยู่เบื้องล่างใต้ฐานยอดคันธงชิดกับมุมบนของธงด้านเสามีแถบสีแดง สีเหลืองและสีเขียวห้อยชายมายังเบื้องล่างในลักษณะพองาม การใช้สีแดง สีเหลือง และสีเขียวเป็นพื้นธงมีความหมาย

สีแดง  หมายถึง พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้แผ่ขยายอาณาเขตออกไปได้อย่างกว้างขวาง ทิศเหนือได้เมืองแพร่ เมืองน่าน ทิศตะวันตกถึงเมืองหงสาวดี ทิศตะวันออกแผ่พระราชอาณาเขตออกไปจนถึงแม่น้ำโขง ต่อแดนเวียงจันทน์และเวียงคำ   ทิศใต้ได้ตลอดถึงแหลมมาลายู  นับว่าดินแดนของประเทศไทยสมัยนั้นแผ่ขยายกว้างขวางยิ่งกว่าสมัยใดทั้งสิ้น

สีเหลือง   หมายถึง  พระพุทธศาสนา ในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีได้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาจนเจริญรุ่งเรืองและนิมนต์พระสังฆราชจากลังกามาปรับปรุงกิจการคณะสงฆ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยต้องตามพุทธบัญญัติ และเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์เสด็จออกทรงผนวช

สีเขียว   หมายถึง  การเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทยสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี ประชาชนดำรงชีพด้วยความสบาย ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ ใครใคร่ประกอบอาชีพใดก็ตามใจชอบ เจ้าเมืองไม่เก็บจังกอบ จึงอยู่กันด้วยความเป็นสุขสบาย ดังปรากฏตามศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชหลักที่ 1   ดังนี้

"…เมื่อชั่วพ่อขุนรามคำแหง เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่อเอา    จกอบในไพร่ลู่ทาง เพื่อนจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทอง ค้า   ไพร่ฟ้าหน้าใส…" 

 

 

สภาพทั่วไปของจังหวัดสุโขทัย

                สุโขทัยเป็นที่ตั้งอาณาจักรแรกของชนชาติไทย  เมื่อ  700  ปีที่แล้ว  คำว่า  สุโขทัย”  มาจากสองคำ  คือ  สุขะ  และ  อุทัย  หมายความว่า  รุ่งอรุณแห่งความสุข”  รอยอดีตแห่งความรุ่งเรืองเห็นได้จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย  ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวไทยและต่างประเทศ

ขนาดและที่ตั้ง

                จังหวัดสุโขทัยตั้งอยู่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย  ห่างจากกรุงเทพมหานครตามระยะทางหลวงแผ่นดินประมาณ  440  กิโลเมตร  มีเนื้อที่ประมาณ  6,596,092  ตารางกิโลเมตร  หรือประมาณ  4,122,557  ไร่

อาณาเขต 

                จังหวัดสุโขทัยมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง  ดังนี้

                ทิศเหนือ เขตอำเภอศรีสัชนาลัย ติดต่อกับ อำเภอวังชิ้น อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ และอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

                ทิศใต้ เขตอำเภอคีรีมาศ และอำเภอกงไกรลาศ ติดต่อกับ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

                ทิศตะวันออก เขตอำเภอกงไกรลาศ อำเภอศรีสำโรง และอำเภอสวรรคโลก ติดต่อกับอำเภอ         พรหมพิรามอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์

                ทิศตะวันตก เขตอำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอทุ่งเสลี่ยม ติดต่อกับ อำเภอเมืองตาก อำเภอ     บ้านตากจังหวัดตาก และอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

 

 

 

 

ลักษณะภูมิประเทศ

                จังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม โดยตอนเหนือเป็นที่ราบสูงมีภูเขาเป็นพืดยาวมาทาง      ทิศตะวันตก  พื้นที่ตอนกลางเป็นที่ราบและตอนใต้เป็นที่ราบสูง  มีแม่น้ำไหลผ่านจากเหนือลงใต้  โดยผ่านพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัย  สวรรคโลก  ศรีสำโรง  เมืองสุโขทัย  และอำเภอกงไกรลาศ  เป็นระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร  จังหวัดสุโขทัยมีภูเขาที่สูงที่สุด  คือ  เขาหลวง  ซึ่งยอดเขามีความสูง  1,200  เมตร  จากระดับน้ำทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ

                สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของจังหวัดสุโขทัย  มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปตามอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้  และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ  แบ่งออกได้เป็นฤดู  คือ  ฤดูร้อน  ฤดูฝน และฤดูหนาวอุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดปี  ประมาณ  27.4  องศาเซลเซียส  อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย  33.0  องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย  22.2  องศาเซลเซียส  ปริมาณน้ำฝนตั้งแต่  1  มกราคม 18  พฤศจิกายน  2551  ประมาณ  1,507.1  มิลลิเมตรบริเวณที่มีฝนตกมากที่สุดอยู่ตอนบนจังหวัด บริเวณอำเภอศรีสัชนาลัย  และอำเภอศรีนคร

การปกครอง

                จังหวัดสุโขทัยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น  9  อำเภอ  84  ตำบล  843  หมู่บ้าน  มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่  จำนวน  91  แห่ง  ประกอบด้วย  องค์การบริหารส่วนจังหวัด  1  แห่ง  เทศบาลเมือง  2  แห่ง  เทศบาลตำบล  16  แห่ง  และองค์การบริหารส่วนตำบล  72  แห่ง

 

 

 

 

 

อำเภอ

เนื้อที่

(ตร.กม.)

จำนวน

ตำบล

จำนวน

หมู่บ้าน

จำนวน

บ้าน

(หลัง)

จำนวน

อบจ.

จำนวน

เทศบาล

เมือง

จำนวนเทศบาล

ตำบล

จำนวน

อบต.

เมืองสุโขทัย

581.474

9

86

34,389

1

1

3

9

บ้านด่านลานหอย

1,081.11

7

71

12,682

 -

 -

2

6

คีรีมาศ

521.892

10

100

15,251

  -

 -

2

9

กลไกรลาศ

502.382

11

109

18,761

  -

 -

1

10

ศรีสัชนาลัย

2,050.51

11

134

30,021

 -

 -

2

8

ศรีสำโรง

565.731

13

118

22,068

 -

 -

1

12

สวรรคโลก

586.192

13

117

27,950

 -

 1

2

10

ศรีนคร

199.865

5

49

8,497

 -

 -

1

5

ทุ่งเสลี่ยม

569.932

5

59

14,692

 -

 -

2

4

รวมทั้งจังหวัด

6,596.09

84

843

184,311

1

2

16

72

 

ประชากร

                ประชากรในจังหวัดสุโขทัยส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมากจากชาวไทยดั้งเดิม  ที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้นานมาแล้ว โดยมีวัฒนธรรม  ขนบธรรมเนียม  ประเพณี  ตลอดจนสำเนียงภาษาพูดเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จะมีคนอพยพมาจากท้องถิ่นอื่นบ้างไม่มากนัก  นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อย  เป็นชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง   ม้ง  เย้า  และลีซอ ซึ่งส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้มานานแล้ว และอีกส่วนหนึ่งอพยพมาจากจังหวัดใกล้เคียง    

เช่น จังหวัดลำปาง  น่าน  พะเยา  เชียงราย  แพร่  ตาก  และเพชรบูรณ์  ปัจจุบันชาวเขาเหล่านี้อาศัยอยู่ในเขตตำบลบ้านแก่ง  และตำบลแม่สิน  แม่สำ  ในอำเภอศรีสัชนาลัย  มีจำนวนประมาณ  428  หลังคาเรือน จำนวน
ประชากรของจังหวัดสุโขทัย  ณ  เดือน  19  กันยายน
 2551  มีจำนวนทั้งสิ้น  601,761  คน เป็นชาย  294,824  คน  หญิง  306,937  คน  สำหรับอำเภอที่มีประชากรมากที่สุดคือ อำเภอเมืองสุโขทัย รองลงมาคืออำเภอ  ศรีสัชนาลัย  และอำเภอสวรรคโลก อำเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด  คือ อำเภอศรีนคร  ความหนาแน่นของประชากรโดยเฉลี่ยในจังหวัด  เท่ากับ  95  คนต่อ  1  ตารางกิโลเมตร

เศรษฐกิจ

ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด  (Gross Provincial Product : GPP)

                ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ประมาณการในปี 2549  เท่ากับ  20,696  ล้านบาท/ปี

รายได้เฉลี่ยต่อต่อคนต่อปี  (GPP Per Capital)

                รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรจังหวัดสุโขทัย  เท่ากับ  33,333  บาท/คน/ปี

การเงินและการธนาคาร

                จำนวนสาขาธนาคารของจังหวัดสุโขทัยรวม  31 แห่ง  จำนวนเงินฝากของธนาคารพาณิชย์  ณ  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. 2550  เท่ากับ  13,887  ล้านบาท  และสินเชื่อเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์  ณ  เดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. 2550  จำนวน  7,543  ล้านบาท  โดยสัดส่วนสินเชื่อเงินให้กู้ยืมต่อเงินฝาก  คิดเป็นร้อยละ  54.32

ภาวะการเงินจังหวัดสุโขทัย

                ภาพรวมสภาพคล่องทางการเงินของระบบเศรษฐกิจจังหวัดขยายตัว  พิจารณาจากสัดส่วนสินเชื่อ         ต่อเงินฝากรวมของธนาคารออมสินและ  ธ.ก.ส.  คิดเป็นร้อยละ  120.60  เพิ่มขึ้นจากร้อยละ  108.28  ในปี  2550

 

 

 

แรงงานและการประกอบอาชีพ

                ประชากรของจังหวัดสุโขทัย จำนวน 582,623  คน ที่อยู่ในวัยแรงงาน  (ประชากรทุกคนที่อายุ 15 ปี     ขึ้นไปมีจำนวนกำลังแรงงานรวม 473,109  คน  ในจำนวนนี้เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน ประชากรในวัยแรงงานที่มีงานทำ  หรือกำลังหางาน  หรือรองาน  มีจำนวน  337,509  คน  ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นผู้มีงานทำ 325, 544  คน  เป็นผู้ว่างงาน 7,774  คน

การเกษตรกรรม

                จังหวัดสุโขทัยมีพื้นที่ถือครองทางเกษตร  จำนวน 2,065,493 ไร่  คิดเป็นร้อยละ  50.10   ของพื้นที่จังหวัด  โดยจำแนกเป็นพื้นที่นา ร้อยละ 63.16 พื้นที่พืชไร่ ร้อยละ 24.98  พื้นที่ไม้ผลและไม้ยืนต้น ร้อยละ 11.37 และ    อื่น ๆ  ร้อยละ 0.79  พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัย ได้แก่  ข้าว  ถั่วเหลือง  ถั่วเขียว  ข้าวโพด  อ้อยโรงงานและใบยาสูบเบอร์เลย์   มีมูลค่าการผลิตรวม  2,092,801  เมตริกตัน

อุตสาหกรรม

                จังหวัดสุโขทัยตั้งอยู่ในเขตการส่งเสริมการลงทุนเขต 3  มีจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมด 424 แห่ง  โดยอุตสาหกรรมที่มีมากเป็นอันดับหนึ่ง  ได้แก่อุตสาหกรรมขนส่ง คิดเป็นร้อยละ 20.69  รองลงมา      ได้แก่  อุตสาหกรรมการเกษตร ร้อยละ 16.87  และอุตสาหกรรมอโลหะ ร้อยละ 12.15  ตามลำดับ ขนาดโรงงานแยกตามเงินทุน จังหวัดสุโขทัยมีโรงงานขนาดใหญ่  จำนวน 5 แห่ง  โรงงานขนาดกลาง 13 แห่ง และโรงงานขนาดเล็ก  จำนวน 505  แห่ง  และโรงสีข้าวทั้งหมด  28  แห่ง

                จังหวัดสุโขทัย  มีหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย  รวม  189  หน่วยงาน  ประกอบด้วย  ราชการบริหารส่วนภูมิภาค  39  หน่วยงาน  ราชการบริหารส่วนกลาง  50  หน่วยงาน  หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ  9  หน่วยงาน  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  91  แห่ง  ประกอบด้วย  องค์การบริหารส่วนจังหวัด  1  แห่ง  เทศบาลเมือง  2   แห่ง  เทศบาลตำบล  16  แห่ง  และองค์การบริหารส่วนตำบล  72  แห่ง

การบริหารงบประมาณจังหวัด

                ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ  ประจำปีงบประมาณ  2549 2551  ของจังหวัดสุโขทัย  มีดังนี้

                งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร  เพิ่มขึ้นทุกปี  โดยปี  2550  และ  2551  ขยายตัวร้อยละ  6.22  และ  4.72  ตามลำดับ  โดยในปี  2551  ได้รับจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น  7,225.316  ล้านบาท  เป็นงบประจำ  4,096.017  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  56.68  งบลงทุน  3,129.299  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  43.32

                การเบิกจ่าย  ภาพรวมสามารถเบิกจ่ายเกินกว่าเป้าหมาย  ปี  2549  -  2551  เบิกจ่ายได้ร้อยละ  93.83  ,  100.53  และ  98.05  ตามลำดับ  งบลงทุน  เบิกจ่าย  จำนวน  1,904.405 ,  2,645.946  และ  2,811.005  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  76.92 , 95.28  และ  89.83  ตามลำดับ  ซึ่งเกินกว่าเป้าหมาย

                ผลการเบิกจ่ายงบประมาณจังหวัดสุโขทัย  ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2551

                จังหวัดสุโขทัยได้รับจัดสรรงบประมาณ  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่  30  กันยายน  2551  จำนวน  7,225.316  ล้านบาท  สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน  7,084.372  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  98.05  ส่วนราชการสังกัดส่วนกลาง  เบิกจ่ายจำนวน  4,313.497  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  94.40  ส่วนภูมิภาค  เบิกจ่ายจำนวน  1,017.121  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  98.75 ,  ส่วนท้องถิ่น  เบิกจ่าย  จำนวน  1,378.047  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  96.74  และงบกลาง  เบิกจ่ายจำนวน  375.707  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  186.39  ของเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)  โดยจำแนกเป็น

                -  ส่วนราชการสังกัดส่วนกลาง  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  4,569.260  ล้านบาท  เบิกจ่ายจำนวน  4,313.497  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  94.40  ของเงินงบประมาณส่วนกลางที่ได้รับจัดสรร

                -  ส่วนราชการสังกัดส่วนภูมิภาค  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  1,029.984  ล้านบาท  เบิกจ่ายจำนวน  1,017.121  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  98.75  ของเงินงบประมาณที่ส่วนภูมิภาคได้รับจัดสรร

                -  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  1,424.503  ล้านบาท  เบิกจ่ายจำนวน  1,378.047  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  96.74  ของเงินงบประมาณส่วนท้องถิ่นที่ได้รับจัดสรร

                -  งบกลาง  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  201.569  ล้านบาท  เบิกจ่ายจำนวน  375.707  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  186.39  ของเงินงบประมาณงบกลางที่ได้รับจัดสรร

                -  งบประจำ  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  4,096.017  ล้านบาท  สามารเบิกจ่ายได้จำนวน  4,273.367  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  104.33  ของเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร  (รวมถึงงบประจำที่เป็นงบกลางแบบไม่มีงวด  ได้แก่  เงินสมทบและชดเชยของของข้าราชการและลูกจ้างฯ ,  ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล  และเงินช่วยเหลือข้าราชการ  ลูกจ้างและพนักงานของรัฐ  ฯลฯ  ด้วย)  และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ  56.69  ของเงินงบประมาณทั้งปีที่ได้รับจัดสรร

                -  งบลงทุน  ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน  3,129.299  ล้านบาท  สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน  2,811.005  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  89.83  ของเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร  และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ  43.31  ของเงินงบประมาณทั่งปีที่ได้รับจัดสรร